Driver เป็นไม้ที่มีขนาดหัวไม้ใหญ่มากที่สุด ยาวมากที่สุด มีองศาหน้าไม้น้อยที่สุด และ ตียากมากที่สุด เหมาะสำหรับการตีที่ต้องการระยะทางไกล เพราะจะทำให้ลูกพุ่งไปไกลมากที่สุดในบรรดาไม้สำหรับใช้ตีกอล์ฟ
Fairway เป็นไม้ที่มีขนาดเล็กกว่า Driver เล็กน้อยและมีจำนวนองศามากกว่าให้ได้เลือกใช้งาน โดยจะแบ่งออกเป็นตัวเลขให้เข้าใจได้โดยง่าย 3-5-7-9-11 โดยไม้แต่ละหมายเลขนั้นจะมีองศาและความยาวไม้ที่สัมพันธ์กัน
เป็นหัวไม้รุ่นใหม่ที่พึ่งจัดทำขึ้นมาในช่วงระยะเวลา 3-5 ปี เรียกได้อีก 2 ชื่อ คือ Utility และ Rescue ถูกออกแบบให้ทดแทนกับไม้ Driver และ Fairway ซึ่งมีให้เลือกใช้ 1-2-3-4-5 ซึ่งตีได้ง่ายกว่า Driver แต่ระยะทางที่ได้ก็ไม่เท่ากับ Driver เช่นกัน
Iron Set ประกอบด้วยไม้จำนวน 6-8 อันโดยเหล็กแต่ละหมายเลขนั้นถูกออกแบบมาให้ตีได้ต่างกัน 10 หลาในการกำหนดระยะของนักกอล์ฟที่ตีได้ จะมีผลเป็นอย่างมากกับการเลือกระยะทางของไม้เพื่อที่จะขึ้นออนกรีน
Wedge เป็นไม้สำหรับใช้ตีในระยะไม่เกิน 100 หลา หรือลูกกอล์ฟตกอยู่ในหลุมทราย ถูกออกแบบมาให้เล่นในระยะสั้น ไม้ Wedge จะมี 4 ลักษณะที่ใช้แตกต่างกัน PW-AW-SW-LW ตามความต้องการของเหล่านักกอล์ฟ
Putter เป็นไม้ที่มีความสำคัญมากที่สุด เพราะเป็นไม้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้ตีลูกกอล์ฟให้ลงหลุม ซึ่งเป็นไม้สุดท้ายที่จะถูกใช้บนกรีน มีการออกแบบให้ใช้งานอิสระมากมาย เพื่อตอบสนองความพึงพอใจของนักกอล์ฟ
กอล์ฟเป็นกีฬาที่มีอุปกรณ์ในการใช้งานค่อนข้างเยอะ เพราะ ว่าเป็นกีฬาที่ต้องเล่นกลางแจ้ง มีการเดินทางค่อนข้างมาก และ ยังใช้เวลาในการเล่นค่อนข้างยาวนานมากกว่า 4 ชั่วโมง ในบางครั้งอาจถึง 6 ชั่วโมงในการเล่นทั้งหมด 18 หลุม ซึ่งอุปกรณ์ในการใช้งานช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักกอล์ฟ